สารบัญ
Diablo Immortal: ออกอัปเดตย่อยในรอบใหม่ของวันที่ 24 เมษายน 2023 โดยจะปิดปรับปรุงเซิร์ฟเวอร์ตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน เวลา 05:00 – 07:00 p.m. PDT สำหรับเซิร์ฟเวอร์โอเชียเนีย จีน เอเชียตะวันออก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยุโรป และในวันที่ 26 เมษายน เวลา 01:00 – 03:00 a.m. PDT สำหรับเซิร์ฟเวอร์ในอเมริกา
*** สำหรับเวลาในประเทศไทยถ้าแปลงเวลาที่ Blizzard ได้ประกาศไว้เวลา 05:00 – 07:00 p.m. PDT (Pacific Daylight Time (US)) เป็น GMT+7 (Greenwich Mean Time) จะตรงกับเวลาในประเทศไทยคือ 07.00 น. – 09.00 น. นับเวลาแบบ 24 ชั่วโมง
ในการอัปเดตเนื้อหา Diablo Immortal ในครั้งก่อน เราให้ผู้เล่นได้เห็นตัวอย่างสมบัติของ Yakin และการเข้าไปผจญภัยใน Dark Wood เพื่อกำจัดภัยคุกคามที่สุดแสนอันตราย และในการอัปเดตเนื้อหาใหม่ในครั้งนี้เราได้เพิ่มไอเท็ม Legendary เข้าไปใหม่อีก 36 รายการ รวมถึงการอัปเดต Fetures อื่นๆ อีกเพียบ
เนื้อหาการอัปเดตย่อย
- อัปเดตคุณสมบัติ
- กิจกรรม: Trials of the Warrior (จำกัดเวลา)
- กิจกรรม: Hungering Moon
- กิจกรรม: All Clans on Deck (จำกัดเวลา)
- ชุดแต่งกายใหม่: Spectral Flame (อย่างเท่ ผู้เขียนกล่าว)
- Bug Fixes
อัปเดตคุณสมบัติ
Diablo Immortal ได้เพิ่มไอเท็ม Legendary เข้ามาใหม่ทั้งหมด 36 รายการ โดยจะสามารถหามาใช้งานได้เมื่อเล่นถึงระดับความยากแบบ Hell VII หรือ Hell 7 เท่านั้น
Barbarian
- Bloodguzzle (Shoulders): ทุกครั้งที่สกิล Cleave สร้างความเสียหายให้กับศัตรู ภายในเวลา 2 วินาที ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับศัตรูตัวนั้นจะเพิ่มขึ้น 10% สูงสุด 30%
- Indiscriminate Heat (Pants): เมื่อใช้สกิล Ground Stomp จะเกิด Effect ลาวาปะทุขึ้นมาจากพื้นในระยะเวลาสักครู่หนึ่ง โดยจะสร้างความเสียหายให้กับศัตรูพร้อมกับติดสถานะ Stunning แก่ศัตรู
- Lurker’s Last Chance (Main Hand): จะทำให้สกิล Cleave กลายเป็นสกิลแบบ Channeled โดยจะสร้างความเสียหายให้แก่ศัตรูที่อยู่ด้านหน้าทั้งหมดแบบซ้ำๆ
- Peace and Quietus (Off-Hand): สกิล Hammer of the Ancients จะสามารถเลือกตำแหน่งในการวางได้ และเมื่อผู้เล่นเปิดใช้งานสกิลอีกครั้ง จะทำให้ตัวละครของเรากับค้อนพุ่งเข้าหากัน และดึงศัตรูที่อยู่ระหว่างตัวละครของเรากับค้อนมารวมไว้ที่เดียวกัน
- Truss of Stolen Skin (Chest): หลังจากที่เราใช้งานสกิล Hammer of the Ancients ไปแล้ว จะทำให้ตัวละครของเรามีความเร็วในการโจมตีและความเร็วในการเคลื่อนที่เพิ่มขึ้น 20% เป็นเวลา 4 วินาที
- Visage of the Living Ancients (Head): สกิล Demoralize จะเรียกพลังของ Ancient ออกมาและจะทำให้ศัตรูที่อยู่บนเส้นทางในตำแหน่งเป้าหมายของเรากลับมาหาเราด้วย
Crusader
- Adamant Lash (Main Hand): เมื่อใช้สกิล Spinning Shield โจมตีใส่ศัตรูที่เคลื่อนที่ไม่ได้ จะทำให้ศัตรูเหล่านั้นติดสถานะ Stun เป็นเวลา 3 วินาที
- Ardent Shepherd (Off-Hand): สกิล Spinning Shield จะขว้างโล่สายฟ้าออกไป 3 อันและจะทำให้ศัตรูติดสถานะ Stun เป็นเวลา 4 วินาที แต่โล่ที่ขว้างออกไปจะไม่กลับมาตัวเราอีก และจะสามารถชาร์จได้สูงสุด 2 ชาร์จ
- Censured Trespass (Pants): สกิล Shield Charge จะทำให้โล่ของเรากระแทกลงบนพื้นอย่างแรง และสร้างความเสียหายพร้อมทั้งลากศัตรูที่อยู่ใกล้ๆ เข้ามาด้วย
- Crown of Dispassion (Head): สกิล Consecration จะมีผลครอบคุลมพื้นที่ที่เป็นเป้าหมายเล็กลง แต่จะสามารถค้นหาศัตรูที่อยู่ใกล้เคียงโดยอัตโนมัติ
- Last Defender (Chest): ศัตรูทุกตัวที่ได้รับผลของสกิล Consecration จะทำให้เราได้รับความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น โดยเราจะสร้างความเสียหายได้เพิ่มขึ้น 2% สูงสุด 10%
- Radiant Auspex (Shoulders): เมื่อใช้งานสกิล Conjuring of Light จะทำให้ศัตรูทั้งหมดที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงติดสถานะ Blind เป็นเวลา 3 วินาที
Demon Hunter
- Duplicitous Prophetics (Chest): สกิล Knockback Shot จะทำให้การโจมตีหลักของเราสามารถยิงลมออกไปได้ และจะทำให้ศัตรูกระเด็นออกไปด้วย
- False Manifesto (Head): หลังจากที่ใช้สกิล Knockback Shot จะทำให้ความเร็วในการโจมตีหลักของเราเพิ่มขึ้น 30% เป็นเวลา 4 วินาที
- Intended Consequences (Pants): สกิล Knife Trap จะดึงดูดศัตรูเข้ามาและเมื่อกลไกทำงาน และจะเกิดการระเบิดในเวลาไม่กี่วินาทีต่อมา
- Precipitous Execution (Shoulders): สกิล Rain of Vengeance จะทำให้ศัตรูในพื้นที่เป้าหมายทั้งหมดถูกเผาไหม้ด้วยลูกศรเพลิง
- Theory of Retribution (Off Hand): สกิล Crossbow Shot จะสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้นทุกครั้ง เมื่อโจมตีใส่ศัตรูตัวเดิม 3 ครั้ง
- Tiresome Rebuke (Main Hand): สกิล Multishot จะทำการโจมตีแบบสุ่ม ระหว่างลูกศร Hatred หรือ ลูกศร Discipline ซึ่งจะทำให้ศัตรูอ่อนแอ หรือทำให้ช้าลง ขึ้นอยู่กับลูกศรที่โจมตี และถ้าหากศัตรูได้รับผลกระทบจากลูกศรทั้ง 2 แบบ จะทำให้ศัตรูได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้นและติดสถานะ Stun พร้อมกัน
Monk
- Bell of Sorrow (Head): สกิล Inner Sanctuary จะสร้างรูปทรงกลมแห่งจิตวิญญาณออกมา และจะลดความเร็วในการเคลื่อนที่ของศัตรูเป็นอย่างมาก และป้องกันการใช้งานสกิล Dash ในขณะที่อยู่ในทรงกลมนั้น
- Desert Striders (Pants): ทุกครั้งที่สกิล Wave of Light สร้างความเสียหายให้แก่ศัตรู ภายใน 2 วินาที ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับศัตรูตัวนั้นจะเพิ่มขึ้น 3% สูงสุด 30%
- Noble’s Path (Chest): สกิล Flying Dragon จะสร้างคลื่นลมขนาดใหญ่ในพื้นที่เป้าหมายกระแทกใส่ศัตรู ทำให้ศัตรูลอยขึ้นไปในอากาศ และถ้าหากเราใช้งานสกิล Flying Dragon อีกครั้งหลังจากที่โจมตีใส่ศัตรูไปแล้ว เราจะวาร์ปไปหาศัตรูเหล่านั้นและเตะพวกมันพร้อมกับสร้างความเสียหายและทำให้ศัตรูติดสถานะ Stun
- Order Without Sin (Main Hand): การโจมตีครั้งสุดท้ายของสกิล Fists of Thunder จะสร้างลูกบอลสายฟ้าออกมาและสร้างความเสียหายต่อเนื่อง
- Shoulders of Vylnas (Shoulders): สกิล Wave of Light จะกลายเป็นสกิลแบบ Channeled โดยจะปล่อยระฆังออกมาด้านหน้าเรา และสร้างความเสียหายให้แก่ศัตรูทั้งหมดที่อยู่ใกล้เคียงแบบซ้ำๆ
- Vedenin’s Sting (Off-Hand): สกิล Flying Dragon จะทำลายเกราะของศัตรูและทำให้ศัตรูได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้น 10% เป็นเวลา 3 วินาที
Necromancer
- Adjudicator’s Cage (Chest): สกิล Bone Spirits จะสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้น 35% แก่ศัตรูที่ติดสถานะ Fear
- Emperor of Worms (Head): สกิล Corpse Lance จะลดความเร็วในการเคลื่อนที่ของศัตรูและทำให้พวกมันเคลื่อนที่ไม่ได้เป็นเวลา 3 วินาที ถ้าหากโดนการโจมตีของสกิล 4 ครั้ง
- Soul Levee (Off-Hand): สกิล Bone Spirits จะปลดปล่อยดวงวิญญาณหลายดวงออกมาทันที และจะไม่ใช้สูบพลังงานของเราเพื่อใช้ในการรักษาผลของเอฟเฟกต์อีกต่อไป
- Strange Sojourn (Pants): สกิล Wraith Form จะพาเราไปยังตำแหน่งเป้าหมายอย่างรวดเร็ว และเมื่อเคลื่อนตัวไปถึงยังตำแหน่งนั้นแล้ว เราจะสร้างความเสียหายให้กับศัตรูที่อยู่ใกล้ทั้งหมดและทำให้ติดสถานะ Fear ด้วย
- Stroke of Midnight (Main Hand): ทุกครั้งที่เราโจมตีจะทำให้ Cooldown ของสกิล Wraith Form ลดลง 0.5 วินาที และจะลดได้สูงสุดไม่เกิน 1.5 วินาที
- Tremulous Boil (Shoulders): สกิล Corpse Explosion จะทำให้เกิดการระเบิดอย่างรุนแรงกับศัตรูที่ติดสถานะ Fear และสร้างความเสียหายให้แก่ศัตรูในบริเวณใกล้เคียงทั้งหมด
Wizard
- Crustclaw (Shoulders): สกิล Ice Armor จะลดความเสียหายแบบต่อเนื่องที่เราได้รับลง 40%
- Riftcarver (Main Hand): สกิล Arcane Torrent จะสร้างลูกแก้วออกมาและจะตามเราไปด้วย พร้อมกับยิงมิสไซล์ออกมาใส่ศัตรูที่อยู่ใกล้เคียงแบบสุ่ม
- Soaring Scree (Off-Hand): เพื่อนหรือพันธมิตรของเราที่ได้รับสกิล Lightning Nova จะมีความเร็วในการเคลื่อนที่เพิ่มขึ้น 30% เป็นเวลา 1 วินาที
- Sprightspark (Chest): สกิล Lightning Nova จะเปลี่ยนเราให้กลายเป็นลูกบอลสายฟ้าและทำให้เราสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว และสร้างความเสียหายได้อย่างต่อเนื่องกับศัตรูที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง
- The Medley (Pants): เมื่อใดก็ตามที่สกิล Arcane Torrent โจมตีโดนใส่ศัตรู 4 ครั้ง ศัตรูเหล่านั้นจะได้รับความเสียหายเพิ่มเติม
- Tomorrow’s Silhouette (Head): สกิล Slow Time จะติดตามเราไปด้วย
รวมผู้เล่นในระดับความยาก Hell
ทีมงาน Diablo Immortal จะทำการปรับเปลี่ยน เพื่อให้ผู้เล่นจำนวนมากสามารถข้ามผ่านความยากระดับ Hell และสามารถเล่นด้วยกันได้ โดยขึ้นอยู่กับระดับของ Server Paragon และการค้นหาปาร์ตี้จะทำได้ง่ายขึ้น รวมถึงการเล่นจนจบดันเจี้ยนแบบเดี่ยวๆ หรือจะเล่นกันแบบปาร์ตี้เล็กๆ ก็จะทำได้ง่ายขึ้น
- Server Paragon เลเวล 320: ผู้เล่นในระดับ Hell I – IV จะสามารถเล่นด้วยกันได้และดันเจี้ยนจะถูกปรับความยากตามจำนวนผู้เล่น
- Server Paragon เลเวล 360: ผู้เล่นในระดับ Hell I – V จะสามารถเล่นด้วยกันได้และดันเจี้ยนจะถูกปรับความยากตามจำนวนผู้เล่น
- Server Paragon เลเวล 480: ผู้เล่นในระดับ Hell I – VI จะสามารถเล่นด้วยกันได้และดันเจี้ยนจะถูกปรับความยากตามจำนวนผู้เล่น
- Server Paragon เลเวล 600: ผู้เล่นในระดับ Hell I – VII จะสามารถเล่นด้วยกันได้และดันเจี้ยนจะถูกปรับความยากตามจำนวนผู้เล่น
- Server Paragon เลเวล 800: ผู้เล่นในระดับ Hell I – VIII จะสามารถเล่นด้วยกันได้และดันเจี้ยนจะถูกปรับความยากตามจำนวนผู้เล่น
เปลี่ยนกำหนดเวลาการลงทะเบียนของ Accursed Towers PvE
เวลาในการลงทะเบียนสำหรับ Clan เพื่อทำการ Purification of Accursed Towers เปลี่ยนจาก
วันเสาร์ เวลา 21:00 น. ถึง วันจันทร์ เวลา 03.00 น. ตามเวลาเซิร์ฟเวอร์ เป็น
วันเสาร์ เวลา 21:00 น. ถึง วันอาทิตย์ เวลา 03.00 น. เวลาเซิร์ฟเวอร์
และหอคอยจะเริ่มใช้งานได้หลังจากหมดเขตลงทะเบียนแล้ว
เปลี่ยน Battleground และ Rite of Exile
ตอนนี้ เมื่อฝ่ายป้องกันสามารถผลัก Idol กลับไปได้ในเฟส 2 ของ Battleground และ Rite of Exile แล้ว จะทำให้ความเร็วในการเคลื่อนที่ของ Idol ลดลง 50%
เปลี่ยนแปลงข้อกำหนดที่ใช้ในการปลดล็อก Gated Gear
ของที่ดรอปจากกิจกรรมที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความยากระดับ Hell อย่างเช่น Elder Rifts จะไม่ถูกปลดล็อกด้วยความคืบหน้าของ Challenge Rift อีกต่อไป แต่จะเปลี่ยนเป็นการปลดล็อกโดยการเอาชนะ Helliquary Boss แทน และจะปลดล็อกในระดับที่เกี่ยวข้องกัน
- เอาชนะ Lassal the Flame-spun: จะปลดล็อกระดับความยาก Hell I
- เอาชนะ Vitaath the Shivering Death: จะปลดล็อกระดับความยาก Hell II
- เอาชนะ Gorgothra the Claimer: จะปลดล็อกระดับความยาก Hell III
- เอาชนะ Beledwe และ Gishtur: จะปลดล็อกระดับความยาก Hell IV
- เอาชนะ Izilech the Misshapen: จะปลดล็อกระดับความยาก Hell V
อัปเดต Cursed Item
อัปเดตคุณสมบัติเชิงบวกต่อไปนี้:
- Blustered: พายุหมุน หรือ ทอร์นาโด จะเลือกเป้าหมายที่อยู่ใกล้เคียงโดยอัตโนมัติ
- Detested: ก่อนหน้านี้การใช้งานคุณสมบัตินี้ จะสามารถเรียกใช้ได้โดยผ่าน Tag ที่ควบคุมไว้เท่านั้น และในตอนนี้เราได้ขยายเงื่อนไขการใข้งานเพิ่มขึ้นโดยการรวมเอฟเฟกต์ Loss of Control เข้าไปด้วย
- Nettled: สถานะการโจมตีสวนกลับจะยังคงใช้งานได้เต็มเวลา ถึงแม้ว่าโล่ที่เปิดการใช้งานจะพังไปแล้วก็ตาม
- Tortured: เราได้ทำการปรับปรุงภาพเส้นทางของเปลวไฟ เพื่อให้สอดคล้องกับพื้นที่ ที่ศัตรูได้รับความเสียหาย
อัปเดตคุณสมบัติเชิงลบต่อไปนี้:
- Dulled: ความเสียหายที่ทำได้จะลดลง เมื่อทำใส่ศัตรูที่มีโล่ป้องกัน
- Enfeebled: ความเสียหายที่ทำได้จะถูกลดลง เมื่อทำใส่ศัตรูที่มีเลือดเต็มหลอด
- Parched: Cooldown ของ Healing Potion เพิ่มขึ้น
จัดกลุ่ม Raid ใหม่ได้ทุกที่
ผู้เล่นสามารถเปลี่ยนปาร์ตี้เป็น Raid ได้ทุกเมื่อ โดยไม่จำเป็นต้องไปจัดกลุ่ม Raid ใหม่ในหน้า Lobby อีกแล้ว ซึ่งผู้เล่นสามารถใช้งานในเมนู My Raid แบบใหม่ โดยที่ Raid Leader สามารถเลื่อนระดับให้สมาชิกคนอื่นๆ ในกลุ่มเป็นผู้ดูแลกลุ่มแทนได้ ซึ่งจะมีสิทธิ์ในระดับเดียวกับ Raid Leader และสามารถเข้าถึงคุณสมบัติของ Raid ได้เพื่อช่วยในการจัดการกลุ่มที่มีผู้เล่นจำนวนมากได้
สามารถรับรางวัลของ Immortal ที่พลาดไปได้
ผู้เล่นจะสามารถรับรางวัลที่พลาดไปของ Immortal แต่ละสัปดาห์ได้ ด้วยการทำกิจกรรมที่ได้รับคะแนน Battle Points ให้เสร็จสิ้น
โหมดผู้สังเกตการณ์ของ Rite of Exile และ Accursed Towers
Immortal และ Shadows ทั้งหมด สามารถชมการต่อสู้ Rite of Exile ได้แล้ว และผู้เล่นยังสามารถดูการแข่งขันใน Accursed Towers PvP ของกลุ่มตัวเองได้ด้วย
กำหนด Shortcut การแชทได้เอง
ตอนนี้จะอนุญาติให้ผู้เล่นสามารถปรับแต่งแต่ละช่องแชทได้เองแล้ว
แท็บช่องแชท
เพิ่ม แท็บต่างๆ ในหน้าแชท เพื่อให้ผู้เล่นสามารถสลับช่องแชทได้อย่างรวดเร็ว เช่น แท็บปาร์ตี้ หรือ แท็บแชทกลุ่ม และถ้าหากผู้เล่นคนไหนไม่ต้องการเห็นแท็บเหล่านี้ก็สามารถเข้าไปปิดคุณสมบัตินี้ได้ใน เมนูการตั้งค่าแชท
ข้อความแชทแนะนำ
ในขณะที่เราสื่อสารกันผ่านช่องแชท ผู้เล่นจะมีตัวเลือกในการส่งข้อความที่ระบบแนะนำให้ หรือ จะสามารถกด ปิดมันผ่านปุ่ม X หรือจะกดส่งข้อความที่ระบบแนะนำไปให้ก้ได้
ปรับปรุงเสียงของการสนทนา
ผู้เล่นสามารถใช้งานการสนทนาแบบเสียงผ่านเมนู ปาร์ตี้ และ Raid ได้แล้ว
ปรับปรุงการบันทึกเสียง
คุณสมบัติ Chat Memo ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น โดยที่ผู้เล่นไม่จำเป็นต้องกดปุ่ม Voice Memo ค้างไว้ในขณะที่พูดเพื่อบันทึกข้อความอีกต่อไปแล้ว ซึ่งในตอนนี้ผู้เล่นสามารถกดปุ่มและเริ่มบันทึกเสียงได้เลย และผู้เล่นสามารถถอดเสียงออกมาเป็นข้อความได้ก่อนที่จะทำการส่งได้อีกด้วย
กิจกรรม: Trials of the Warrior (จำกัดเวลา)
นักรบที่แท้จริงไม่ได้วัดกันที่ยศถาบรรดาศักดิ์ แต่วัดกันที่ผลงาน
กิจกรรมจะเริ่มตั้งแต่ วันที่ 26 เมษายน เวลา 03.00 น. – วันที่ 4 พฤษภาคม เวลา 03.00 น. ตามเวลาเซิร์ฟเวอร์ โดยการทำภารกิจที่ท้าทายจากกิจกรรม Trials of the Warrior ทุกวันให้สำเร็จ ผู้เล่นสามารถทำ Bounties หรือ Elder Rifts ให้สำเร็จ เพื่อรับรางวัลที่เหมาะสมกับความกล้าหาญของผู้เล่น และขึ้นอยู่กับว่าสุดท้ายแล้วระดับของคุณอยู่ในระดับใด ผู้เล่นจะได้รับรางวัลสำหรับระดับสูงสุดที่ทำได้เท่านั้น
- ระดับ Bronze (1 Bounty หรือ Elder Rift): ได้รับ 1 Rare Crest
- ระดับ Silver (10 Bounty หรือ Elder Rift): ได้รับ 1 Rare Crest และ legendary Gem 1 ดาว แบบสุ่ม 1 อัน
- ระดับ Gold (30 Bounty หรือ 20 Elder Rift): ได้รับ 1 Rare Crest และ legendary Gem 1 ดาว แบบสุ่ม 2 อัน
- ระดับ Platinum (40 Bounty หรือ 30 Elder Rift): ได้รับ 1 Rare Crest และ legendary Gem 1 ดาว แบบสุ่ม 3 อัน
- ระดับ Diamond (50 Bounty หรือ 40 Elder Rift): ได้รับ 1 Rare Crest และ legendary Gem 1 ดาว แบบสุ่ม 4 อัน
และผู้เล่นจะต้อง Login เข้าเกมในสัปดาห์ถัดไปเพื่อรับของรางวัลที่ได้จากกิจกรรม
กิจกรรม: Hungering Moon
กิจกรรม Hungering Moon เวอร์ชั่นใหม่
ผู้เล่นสามารถทำภารกิจได้สูงสุด 3 ภารกิจต่อวันและสามารถทำได้สูงสุดภารกิจละ 4 รอบ โดยกิจกรรมจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน เวลา 03:00 น. – 2 พฤษภาคม เวลา 02:59 น. ตามเวลาเซิร์ฟเวอร์ เมื่อทำภารกิจเสร็จแล้ว ผู้เล่นจะได้รับ Astrolabe Power โดยจะมอบพรให้เลือกได้ 1 อย่างจากทั้งหมด 2 อย่าง เพื่อใช้ประโยชน์จากพรของ Astrolabe โดยพรทั้ง 2 อย่างจะมี
- Draw a Blessing of More: ผู้เล่นจะได้รับโบนัส 50% ในการดรอปทองในดันเจี้ยนหรือสามารถสร้างความเสียหายได้เพิ่มขึ้น 10% ในขณะที่อยู่ในดันเจี้ยนในระยะเวลาจำกัด และเมื่อใช้งาน Blessing of More แต่ละอันแล้ว ผู้เล่นจะได้รับ Moonslivers 5 อัน หลังจากการใช้งาน
- Drawing a Blessing of Might: จะเชิญให้คุณทำภารกิจในดันเจี้ยนจนสำเร็จเพื่อแลกกับ Moonslivers และถ้าหากผู้เล่นทำภารกิจในดันเจี้ยน ร่วมกับปาร์ตี้จนสำเร็จแล้ว จะได้รับ Moonslivers ตอบแทนเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า
และพรจะไม่สามารถใช้งานพร้อมกันได้ และเมื่อได้ Moonslivers ตามจำนวนที่ต้องการแล้วสามารถนำไปแลกของรางวัลตามที่ต้องการได้ โดยที่ผู้เล่นสามารถไปที่ Hermit’s Collection ซึ่งอยู่ในหน้ากิจกรรมของ Hungering Moon เพื่อทำการแลกเปลี่ยน Moonslivers ของผู้เล่น นอกจากนี้หากผู้เล่นรวบรวมพรและใช้งานครบ 12 พรจะได้รับ The Moon’s Regard ซึ่งจะทำให้เราได้โบนัสรางวัล Moonslivers จำนวน 90 ชิ้น และเมื่อรวบรวม Moonslivers ได้ตามจำนวนที่ระบุไว้ด้านล่างในช่วงเวลาของกิจกรรมจะได้รับ
- 10 Moonslivers จะได้รับ: Rare Crests 3 ชิ้น
- 50 Moonslivers จะได้รับ: เซ็ตไอเทมแบบสุ่ม 1 ชิ้น
- 130 Moonslivers จะได้รับ: Telluric Pearl 1 ชิ้น
- 230 Moonslivers จะได้รับ: Legendary Crest 1 ชิ้น
กิจกรรม: All Clans on Deck (จำกัดเวลา)
Burning Hells กำลังรวบรวมกองทัพของพวกมัน ด้วยเจตนาอันชั่วร้ายที่สุด รวบรวมธงของเหล่านักผจญภัย และร้องขอความช่วยเหลือจาก Clan ของคุณเองเพื่อเอาชนะกระแสแห่งความมืดมิดและกองทัพอันชั่วร้ายนั้น
กิจกรรมจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 03.00 น. – 11 พฤษภาคม 03.00 น. ตามเวลาเซิร์ฟเวอร์
เพื่อหยุดยั้งการรุกรานของปิศาจจากนรก Clan ของคุณจะต้องทำการกำจัดศัตรูให้ได้มากที่สุดก่อนที่เวลาจะหมดลง และเมื่อสิ้นสุดการต่อสู้ Clan ของคุณจะได้รับรางวัลในกล่องจดหมายและสมาชิกแต่ละคนจะได้รับรางวัลเมื่อกิจกรรมจบลง
- ระดับ Bronze (กำจัดได้ 150 Elite): จะได้รับ Legendary ไอเท็มแบบสุ่ม 1 อัน
- ระดับ Silver (กำจัดได้ 1,500 Elite): จะได้รับ Legendary ไอเท็มแบบสุ่ม 1 อัน และกุญแจ Aspirant 15 อัน
- ระดับ Gold (กำจัดได้ 3,000 Elite): จะได้รับ Legendary ไอเท็มแบบสุ่ม 1 อัน และกุญแจ Aspirant 15 อัน และ Legendary Gem 1 ดาวแบบสุ่ม 1 อัน
- ระดับ Platinum (กำจัดได้ 4,500 Elite): จะได้รับ Legendary ไอเท็มแบบสุ่ม 1 อัน และกุญแจ Aspirant 15 อัน และ Legendary Gem 1 ดาวแบบสุ่ม 1 อัน และ Normal Gem แบบสุ่ม 3 อัน
- ระดับ Diamond (กำจัดได้ 6,000 Elite): จะได้รับ Legendary ไอเท็มแบบสุ่ม 1 อัน และกุญแจ Aspirant 15 อัน และ Legendary Gem 1 ดาวแบบสุ่ม 1 อัน และ Normal Gem แบบสุ่ม 3 อัน และ Commander’s Frame
และผู้เล่นจะต้อง Login เข้าเกมในสัปดาห์ถัดไปเพื่อรับของรางวัลที่ได้จากกิจกรรม
ชุดแต่งกายใหม่: Spectral Flame
Diablo Immortal เปิดตัวชุดแต่งกายใหม่ในชื่อ Spectral Flame Standard ที่สามารถหาซื้อได้จากร้านค้าในเกมในราคา 1,000 Eternal Orbs
Bug Fixes
แก้ไขข้อผิดพลาดของ Diablo Immortal ในวันที่ 18 เมษายน 2023
Battle Pass
- แก้ไขปัญหา ที่ผู้เล่นต้องระบุของรางวัลที่ได้รับใน Rank ที่ 10 หลังจากได้รับแล้ว
Gameplay
- แก้ไขปัญหา เกี่ยวกับ Accursed Towers เมื่อผู้เล่นได้ทำการเปลี่ยนแคลนก่อนการอัปเดตเนื้อหาครั้งล่าสุดจะไม่สามารถลงทะเบียนสำหรับการแข่งขัน PvP ได้
UI
- แก้ไขปัญหา ที่ช่องทางใน Recruitment Chat ไม่สามารถนำผู้เล่นไปยัง Party Finder ได้
แก้ไขข้อผิดพลาดของ Diablo Immortal ในวันที่ 11 เมษายน 2023
Accursed Towers
- แก้ไขปัญหาที่ Class Monk ไม่สามารถเข้าร่วมการ Tower Purification ได้
- สมาชิกของ Clan ทุกคนที่ลงทะเบียน PvP ของ Accursed Towers แม้ว่าจะไม่ได้เข้าร่วมต่อสู้ ตอนนี้จะได้รับของรางวัลในจดหมายด้วยหลังจากผลการแข่งขันจบลง
- แก้ไขปัญหา ผู้เล่นได้รับค่าประสบการณ์ในระดับที่ไม่คาดคิดจากการ Tower Purification
Events
- แก้ไขปัญหากิจกรรม Recall a Friend ไม่ให้รางวัลตามที่บอกไว้
UI
- แก้ไขข้อความ UI ใน Accursed Towers
- แก้ไขปัญหา ข้อความการแจ้งเตือน Daylight Savings บนเซิร์ฟเวอร์ AU
Wynton’s Grand Market
- แก้ไขปัญหา ที่การซื้อ Gem หลายชิ้นล้มเหลวเป็นบางครั้ง
ที่มา: Blizzard / Diablo Immortal