ถึงยุคที่เทคโนโลยีพัฒนาไปไกลจนมีรถยนต์ EV คุณภาพสูงอย่าง TESLA ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนด้วยตัวเอง แม้ในฝั่งตะวันตกจะมีคนหาซื้อมาขับขี่กันอย่างกว้างขวางแล้ว จนเจ้าของ TESLA อย่างมัสก์เองขึ้นแท่นเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลกไปเรียบร้อย แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าฝั่งเอเชียของเราหลายคนยังมองว่ารถ EV เป็นเรื่องไกลตัว ประสิทธิภาพไม่เหมือนรถกินน้ำมันบ้างอะไรบ้าง แต่หลังจากเผชิญหน้ากับยุค COVID-19 ระบาด หรือสงครามรัสเซีย-ยูเครน ปฏิเสธไม่ได้ว่าเราต้องหันมาให้ความสนใจกับรถ EV กันอย่างหนักแล้ว
ในวงการตลาดรถยนต์เอง หากไม่ทำอะไรเลยก็จะเป็นการปล่อยให้ยักษ์ใหญ่จากอเมริกาฮุบตลาดไปทั้งหมด ทางยักษ์แห่งเทคโนโลยีฝั่งเอเชียของเราก็ใช่ว่าจะนิ่งเฉย เพราะได้เตรียมการรับมือการบุกตลาดจาก TESLA ไว้แล้วเช่นกัน
ตั้งแต่ต้นปี 2020 CEO ของ SONY Group นายเคนอิจิโระ โยชิดะ (Kenichiro Yoshida) ได้ขึ้นเวที Consumer Electronics Show (CES) ในลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา เพื่อประกาศเปิดตัว SONY กับวงการอุตสาหรรมรถยนต์ โดยมีพาร์ทเนอร์หรือหุ้นส่วนคนสำคัญอย่าง HONDA
เคนอิจิโระ โยชิดะ CEO ของ SONY เปิดตัวรถยนต์ EV Sony Vision-S ในงาน CES 2020 ภาพจาก BLOOMBERG
และในเดือนมีนาคม 2022 ที่ผ่านมายังได้แถลงการณ์อย่างเป็นทางการในงาน Joint Press Conference ถึงการร่วมมือระหว่างสองบริษัทโดย CEO ทั้งสองฝ่าย ที่ต่างเห็นพ้องต้องกัน
SONY ที่ต้องการเป็นผู้นำการผลิตซอฟต์แวร์ไม่ว่าจะเป็นบนอุปกรณ์ต่างๆ และท่ามกลางบริษัทรถยนต์หลายยี่ห้อ HONDA ที่มี CEO อย่าง โทชิฮิโระ มิเบะ (Toshihiro Mibe) เป็นหนึ่งบริษัทที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนารถน้ำมัน ไปสู่รถ EV อย่างชัดเจน ก็เห็นพ้องต้องกัน แทบเรียกว่าอยากจะกระโดดกระโจนเข้าไป มีเป้าหมายว่าจะเลิกใช้เลิกผลิตรถน้ำมันให้ได้ภายในปี 2040
พอได้จับมือกัน จึงสามารถต่อยอดเทคโนโลยียานพาหนะไปได้อีกขั้นด้วยแรงจาก SONY ที่ทาง HONDA เห็นว่าสามารถช่วยมาพัฒนา software ต่างๆภายในรถ ไม่ว่าจะเป็นขับเคลื่อนด้วยตัวเอง เซนเซอร์ หรือระบบอื่นๆ เพื่อพัฒนาศักยภาพรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นไปอีกขั้น โดยเตรียมตั้งเป็นบริษัทใหม่ในนาม Sony Honda Mobility ภายในปี 2022 นี้
Sony Vision-S ในงาน CES 2020 ภาพจาก BLOOMBERG
โดยโมเดลรุ่นแรกที่มีกำหนดจะเปิดตัวในปี 2025 นี้ กล่าวว่ามันสามารถขับเคลื่อนด้วยตัวเองในระดับ 4 หรือระดับ High Driving Automation คือออโต้ไพล็อตแบบที่รถสามารถขับได้ด้วยตัวเอง บนเส้นทางที่มีองค์ประกอบครบถ้วนแล้ว เช่น มีเส้นแบ่งชัดเจน มีขอบถนน อัปเดตระบบไฟจราจรแล้ว โดยคนขับนั่งเฉยๆแค่จิ้มไปที่จุดหมาย แต่หากขาดอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือมีอะไรมากีดขวางไปจะขับเคลื่อนเองไม่ได้ คนขับต้องบังคับเองโดยระบบซอฟต์แวร์ที่เชื่อมต่อกับ cloud และติดตั้งเซนเซอร์ทุกอย่าง เรียกได้ว่าถ้าคนขับแทบจะไม่ต้องขับเองได้เกือบทั้งทริป
ไม่ได้มีแต่ HONDA-SONY เท่านั้นที่เข้ามาจับมือกัน ฝั่ง APPLE เองก็กำลังมองหาหุ้นส่วนเพื่อมาร่วมมือกันผลิตรถ EV APPLE Cars เช่นกัน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะจับมือกับใครอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า เพราะนั่นหมายความว่า หุ้นส่วนที่เราจับมือด้วยนั้น จะสามารถรู้เทคนิค เทคโนโลยีการผลิต นวัตกรรมต่างๆของเราอย่างหมดไส้หมดพุง แทนที่จะกลายเป็นหุ้นส่วนกัน อาจจะกลายเป็นการเดินเอาทองไปให้โจรแบบดื้อๆได้เช่นกัน
แต่จากแถลงในงาน Joint Press Conference ในวันที่ 4 มีนาคม 2022 กล่าวว่าผู้ก่อตั้งของทั้ง SONY และ HONDA ต่างรู้จักและเป็นเพื่อนสนิทกันมาช้านาน ไม่แปลกใจที่ต่างไว้วางใจกัน และข้อดีคือต่างได้รับการแลกเปลี่ยนทางเทคโนโลยี ผ่านจุดแข็งของแต่ละฝ่ายด้วย
ที่มา : BLOOMBERG.COM
ภาพปก : screen-shot จาก Reuter