ปัจจุบันหนึ่งในเกมที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากบนโลกออนไลน์ คงหนีไม่พ้นเกมแนวกำจัดผู้เล่นคนอื่นๆ จนกระทั่งเหลือคนสุดท้ายที่ชนะ อย่าง PUBG, Fortnite หรือ Garena Free Fire ที่หลายคนเคยผ่านมือมาแล้ว
เกมที่มีกติกากำจัดผู้เล่นไปเรื่อยๆเช่นนี้ ถูกเรียกว่าแบทเทิล รอแยล เป็นประเภทย่อยในหมวดเกมต่อสู้ (Action game) อีกที เหตุใดจึงเรียกเช่นนี้? มันมีที่มาที่ไปอย่างไรกัน? วันนี้ Gametonix จะขอมาเล่าที่มาที่ไปให้ฟังกัน
จริงๆแล้วคำว่าแบทเทิลรอแยล เป็นชื่อของภาพยนตร์ญี่ปุ่นชื่อดังที่ฉายในปี 2000 สร้างจากนิยายชื่อ Battle Royale (バトル・ロワイアル) หรือนิยมเรียกสั้นๆว่า “BR” กำกับโดย Kinji Fukasaku
โดยในหนัง พูดถึงเรื่องเด็กนักเรียนญี่ปุ่นที่เกเรจนเป็นปัญหาระดับประเทศ จนครูประจำชั้นทนไม่ไหว ถึงกับส่งชื่อนักเรียนห้องตัวเองไปให้รัฐบาล เพื่อร่วมคัดเลือกเด็กนักเรียนห้องที่เกเรที่สุดจากทั่วประเทศ เพื่อไปเล่นเกม
นักเรียนห้องที่ถูกคัดเลือก (นับได้ว่าโชคร้ายที่สุดก็ว่าได้) จะถูกทหารจับตัวไปยกห้อง ติดปลอกคอระเบิด พาไปปล่อยยังเกาะแห่งหนึ่ง จากนั้นผู้ควบคุมกฏก็โยนอาวุธ ให้แต่ละคนไปฆ่ากันเอาเอง ใครไม่ยอมเล่นก็จะถูกปลอกคอระเบิดสังหารทันที
กติกาหลักอีกอย่างของเกมคือโซนที่อยู่จะถูกจำกัดวงแคบเรื่อยๆ ง่ายๆคือไม่ให้นักเรียนซ่อนตัวเงียบๆไม่ต่อสู้ แต่จะให้มาเจอกันบนทางแคบแล้วฆ่ากันให้ได้นั่นเอง
นอกจากภาพยนตร์จะประสบความสำเร็จ โด่งดังไปแทบทั่วโลก ณ ขณะนั้น หลายคนยังพูดถึงเรื่องความแปลกใหม่ของหนังที่ดำเนินเรื่องเหมือนให้คนเล่นเกมจริงๆ เอาชีวิตเป็นเดิมพัน
ด้วยเหตุที่กฏกติกาน่าสนใจเช่นนี้เอง จึงมีคนสนใจนำกติกาเช่นนี้ไปใส่เล่นจริงๆในเกม เกมแบบแบทเทิลรอยัล จึงเริ่มต้นขึ้นและเป็นที่รู้จักกัน ที่มีชื่อเสียงเริ่มมาจากการทำ mods แบบแบทเทิลรอยัล ในเกมยอดนิยมอย่าง Minecraft ในช่วงปี 2009 จนกระทั่งใน 10 ปีหลังนี้เทคโนโลยีเกมพัฒนา กลายเป็นหนึ่งประเภทเกมที่ได้รับความนิยมสูงสุดไปแล้ว
นอกจากในเกมที่มีรูปแบบแบทเทิลรอแยล เต็มรูปแบบ (ปล่อยคนกลุ่มหนึ่งในที่โดดเดี่ยว ให้อาวุธ ตีวงพื้นที่การเล่น) หลายคนอาจจะคุ้นเคยกติกาสุดโหดแบบนี้มาแล้ว เพราะอย่างหนังดังเรื่อง The Hunger games ก็ให้ตัวเอกเล่นเกมสไตล์นี้ เช่นกัน
อ้างอิง : wikipedia.org/battle_royale_game