สารบัญ
- 1 ปลุกตำนานของคุณในฤดูกาลที่ 4: LOOT REBORN
- 2 Codex
- 3 ระบบไอเทมใหม่: Masterworking, Tempering และอื่นๆ อีกมาก
- 4 Helltide Reborn
- 5 ความท้าทายใหม่: The Pit of Artificers
- 6 Andariel เข้าร่วมใน Fray & Tormented Echoes
- 7 ต่อสู้ร่วมกับ Iron Wolves
- 8 รางวัล Season Journey และ Battle Pass
- 9 ชุดใหม่ในร้านค้าของ Tejal
Diablo 4 ใน Season 4: Loot Reborn ได้ทำการเปลี่ยนแปลง ปรับปรุงและเพิ่มเนื้อหาใหม่ๆ เข้ามาอีกหลายอย่างมากมาย หลังจากที่ได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์จากผู้เล่นมากมายและดูเหมือนว่าจะเป็นไปในทิศทางที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนักเท่าไหร่ ซึ่งในช่วง Season 3: Season of the Construct นั้นค่อนข้างน่าเบื่อ เรียกได้ว่าเป็นช่วงวิกฤติขาลงชัดเจนกว่าใน Season อื่นๆ ที่ผ่านมา และประกอบกับเป็นจังหวะที่มีเกมแนวเดียวกันได้เปิดตัวออกมา และมีความสนุก หลากหลายมากกว่า Diablo 4 จึงทำให้ Blizzard ต้องหาทางรับมือและแก้ไขในแนวทางใหม่ๆ ก่อนที่มันจะสายเกินไป และการอัปเดตที่เราจะได้เจอใน Season 4: Loot Reborn นี้แทบจะเป็นการรื้อระบบใหม่กันเลยทีเดียวในบางระบบ
แต่อย่างไรก็ตามทาง Blizzard ก็พร้อมแล้วที่จะเปิดตัว Diablo 4 ใน Season 4: Loot Reborn ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2024 พร้อมกับการปรับปรุงระบบใหม่ๆ และจะมีอะไรบ้างนั้นเราไปติดตามอ่านกันได้ด้านล่างนี้
ปลุกตำนานของคุณในฤดูกาลที่ 4: LOOT REBORN
Codex
- ระบบไอเทมใหม่: Masterworking, Tempering และอื่นๆ อีกมาก
- Helltide Reborn
- ความท้าทายใหม่: The Pit of Artificers
- Andariel เข้าร่วมใน Fray & Tormented Echoes
- ต่อสู้ร่วมกับ Iron Wolves
- รางวัล Season Journey และ Battle Pass
- ชุดใหม่ในร้านค้าของ Tejal
ระบบไอเทมใหม่: Masterworking, Tempering และอื่นๆ อีกมาก
ระบบ Season ในเกม Diablo 4 เป็นของที่อยู่คู่กันมาอย่างยาวนานใน Sanctuary แห่งนี้ และใน Season 4: Loot Reborn ก็ได้ทำการปรับปรุงเนื้อหาและกลไกใหม่ของเกมเรียกได้ว่า แทบจะยกเครื่องระบบเกมหลักหลายระบบ เพื่อรีเฟรชวิธีการรับไอเท็ม วิธีการทำงานของไอเท็ม และวิธีเพิ่มประสิทธิภาพเมื่อคุณเล่นผ่าน World Tiers แต่ละ Tiers
อัปเดตการใช้งานไอเท็มทั่วไป
หนึ่งในเป้าหมายหลักของเราคือ การทำให้ผู้เล่นเข้าใจได้ง่ายที่สุดว่าไอเท็มไหนได้รับการอัปเกรดให้ดีขึ้นหลังจากที่มันดรอป โดยการลดจำนวน Affixes ที่ติดมากับไอเท็มลงจากเดิมโดยในไอเท็มประเภท Legendary เหลือ 3 Affixes และใน Rare เหลือ 2 Affixes และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับไอเท็มเหล่านั้นแทน จากเดิมที่เราเคยใส่เงื่อนไข เช่น ความเสียหาย +10% เมื่อโจมตีใส่ศัตรูประเภท Elite ที่ยังไม่เคยได้รับความเสียหายมาก่อน และเราได้เปลี่ยนมันให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น เช่น การเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ (Movement Speed) หรือ เพิ่มพลังชีวิตสูงสุด (Max life) หรือการเพิ่มระดับของ Core Skill เป็นต้น สิ่งนี่จะทำให้ผู้เล่นเข้าใจได้ง่ายมากขึ้นกว่าเดิม และเราได้ย้ายความซับซ้อนนี้ ไปยังระบบ Craft System แบบใหม่แทน
และเราได้ทำให้การดรอปไอเท็มที่ได้จากศัตรูน้อยลง แต่มีประสิทธิภาพดีขึ้น เป้าหมายของสิ่งนี้คือ
- การทำให้ผู้เล่นได้รับความสนุกในการเล่นและต่อสู้กับศัตรูได้มากขึ้น
- ใช้เวลาน้อยลงสำหรับการที่จะต้องมาดูคุณสมบัติต่างๆ ในไอเท็ม
และวัตถุดิบที่ได้จากการ Salvaging (ย่อยไอเท็ม) และการ Crafting จึงมีการปรับเปลี่ยนให้ตรงกับการเปลี่ยนแปลงนี้ และนอกจากนี้เรายังได้ปรับให้ Forgotten Souls สามารถหาได้จากรางวัลของ Whisper และทำให้มันเป็น Rare ดรอป จากศัตรูประเภท Elite ทั้งหมดด้วย และ Gold หรือ เงินที่ใช้ในการ Re-Roll หรือ สุ่มความสามารถก็ปรับให้มีค่าสูงสุดแล้วรวมถึงลดการใช้วัตถุดิบลงด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ระบบ World-Tiers ก็ยังส่งผลโดยตรงต่อความยากในการหาไอเท็มเช่นเดิม ไอเท็มประเภท Sacred จะเริ่มดรอปใน World-Tiers 3 และไอเท็ม Ancestral จะดรอปใน World-Tiers 4 และพลังของไอเท็มระดับ 925 จะดรอปจากศัตรูเลเวล 95 ขึ้นไปเสมอ
อัปเดต Codex of Power
ตอนนี้การสกัด Aspects ออกจากไอเท็มในตำนาน (Legendary) จะเก็บพวกมันไว้ใน Codex of Power ของคุณเพื่อนำไปใช้ได้อย่างไม่จำกัด แทนที่จะต้องใช้ช่องในคลังเพื่อเก็บ Aspect ทั่งหมดและ Codex of Power จะทำหน้าที่เป็นเหมือนห้องสมุดที่ใช้เก็บ Aspect เหล่านี้ไว้เพื่อให้ผู้เล่นสามารถใช้ได้บ่อยเท่าไหร่ก็ได้ตามที่ผู้เล่นต้องการ
Codex of Power จะแสดง Aspects ที่มีอยู่ทั้งหมด ช่วยให้ผู้เล่น สามารถใช้เวลามากขึ้นในการค้นหา Aspects ที่มีค่าสูงสุดเท่าที่เป็นไปได้
ผู้เล่นสามารถเพิ่ม Aspects เป็นรายการโปรดไว้ภายใน Codex of Power ได้ และจะมีคำอธิบายแบบ Tooltip บอกว่าคุณมี Aspects ไหนที่ใช้งานอยู่
Tempering: เสริมแกร่งให้เหล็กกล้าและปลุกพลังของมัน
เมื่อผู้เล่นได้เรียนรู้ตำราการ Tempering แล้ว เหล่าช่างตีเหล็กทั่ว Sanctuary จะสามารถใช้ตำราเหล่านี้ เพื่อปรับแต่งคุณสมบัติของอุปกรณ์ของคุณได้ ระบบ Tempering จะช่วยเพิ่มคุณสมบัติเสริม Affix ที่ทรงพลังให้กับไอเทมของคุณ
ตำราการสร้างสามารถหาได้ทั่วไปใน Sanctuary ตลอดทั้งเกมและเมื่อเรียนรู้แล้ว ผู้เล่นสามารถนำไปใช้ได้ไม่จำกัดครั้ง (เหมือนกับระบบ Codex of Power แบบใหม่) ตำราการประดิษฐ์แต่ละแบบจะมีคุณสมบัติเสริมเพียงไม่กี่อย่าง โดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็น 6 ประเภท คือ Weapons, Offensive, Defensive, Mobility, Utility และ Resource เพียงผู้เล่นไปหาช่างตีเหล็กเพื่อ เสริมแกร่ง (Temper) ไอเทมของคุณและเพิ่มคุณสมบัติที่ตามมีอยู่ ซึ่งจะช่วยลดเวลาในการหาคุณสมบัติเสริมที่ต้องการลงอย่างมาก
Masterworking: ยกระดับอาวุธของคุณสู่ความเก่งกาจเหนือคำบรรยาย
ใช้วัตถุดิบที่หาได้ยากที่สุดที่พบได้ในเหมืองและถ้ำที่ลึกที่สุด เสริมความแข็งแกร่งของอาวุธของคุณให้มีศักยภาพสูงสุด Masterworking คือระบบการประดิษฐ์ช่วงท้ายเกม โดยใช้วัสดุที่ได้รับจาก The Pit of Artificers เพื่ออัพเกรดอาวุธของคุณ
Masterworking จะช่วยยกระดับความแข็งแกร่งโดยรวมของ Affix (คุณสมบัติเสริม) ทั้งหมดบนอาวุธของคุณ และในทุกๆ 4 ระดับ ของการอัปเกรดจะยกระดับคุณสมบัติเสริมที่ติดตั้งไว้ 1 อัน อย่างมหาศาล คุณสมบัติเสริมที่ได้รับโบนัสพิเศษนี้จะเปลี่ยนเป็นสีฟ้า หากคุณสมบัติเสริมเดียวกันได้รับการยกระดับอีกครั้ง จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง และในกรณีที่หายาก จะเปลี่ยนเป็นสีส้มหากได้รับการยกระดับเป็นครั้งที่ 3
หากคุณอัปเกรดมาถึงระดับสูงสุดของ Masterworking บนอาวุธที่กำหนดไว้แล้ว และคุณยังไม่พอใจกับการเสริมความแข็งแกร่งบนอาวุธของคุณ คุณสามารถรีเซ็ตและเริ่มกระบวนการใหม่ได้อีกครั้ง
Greater Affixes
Greater Affixes จะมีเฉพาะใน Ancestral Legendary และ Unique Items เท่านั้นและจะมีพลังมากถึง 150% หรือ 1.5 เท่า ของ Affixes ปกติ ไอเทมที่มีคุณสมบัติ Greater Affixes จะมีเสียงแจ้งเตือนพิเศษและมีไอคอนพิเศษแสดงให้เห็นทั้งในแผนที่และในคลังของคุณ และผู้เล่นจะไม่สามารถ Enchant เพื่อสร้าง Greater Affix ได้ แต่จะพบมันได้จากการดรอปเท่านั้น
Gems
Crude Gems หรือ อัญมณีอันเล็กๆ ถูกนำออกไปแล้ว และเลเวลการคราฟท์ มีการปรับลดลง อัญมณีปกติ (Normal Gems) จะหาได้ตั้งแต่เลเวล 51 และอัญมณีไร้ตำหนิ (Flawless Gems) จะหาได้ตั้งแต่เลเวล 71 และอัญมณีชั้นสูง (Royal Gems) จะหาได้ตั้งแต่เลเวล 91 และอัญมณีทั้งหมดได้รับการเพิ่มความสามารถขึ้นเล็กน้อย
Helltide Reborn
เหล่าทหารแห่ง Burning Hells รวมตัวกันใหม่อีกครั้ง เพื่อแสดงพลังที่น่าเกรงขามที่สุดในการเกิดใหม่ของ Helltide ได้รับแรงบันดาลใจจาก Vampiric Blood Harvest ใน Season of Blood ความดุร้ายในการต่อสู้ของคุณดึงดูดความสนใจของศัตรูที่อันตรายมากขึ้นเรื่อยๆ มีเพียงผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดและเตรียมพร้อมที่สุดเท่านั้นที่สามารถอยู่รอดจากการโจมตีอันทรงพลังนี้ได้
การข่มขู่ในระดับที่นรกหมายหัว
เมื่อคุณเข้าสู่ Helltide คุณได้สร้างภัยคุกคามขึ้นมาแล้ว ระดับความยากของศัตรูจะขึ้นอยู่กับศัตรูที่คุณสังหารมันและความถี่ของการเปิดกล่อง Tortured Gifts ใน Helltide โดยที่ระดับความยากจะแบ่งออกเป็น 3 ระดับ และแต่ละระดับที่คุณไปมันจะค่อยๆ เพิ่มความยากขึ้นทั้งความอันตรายและความถี่ของการโจมตี และถ้าคุณมาถึงระดับ 3 แล้วคุณจะกลายมาเป็นสิ่งที่เรียกว่า “การหมายหัวจากนรก” หรือ Hell-Marked
และถ้าหากเรารอดจากการโจมตีจากเหล่าศัตรูจากนรกแล้ว Hellborn หนึ่งในนักรบผู้น่าเกรงขามและน่ากลัวที่สุดแห่ง Sanctuary ซึ่งจะมาในรูปแบบของ Class ใด Class หนึ่ง จะออกมาสู้กับเรา
ลัทธิและพิธีกรรมอันชั่วร้าย
ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยการนองเลือดอันน่าขนลุกและความน่าสะพรึงกลัว การทำพิธีกรรมต้องสอบนี้ ถือเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นและยืนยันในเรื่องสุดสยองของลัทธิผู้คลั่งไคล้สุดคลั่งนี้ได้ นี่คือสถานที่ที่คุณสามารถเริ่มพิธีกรรมต้องคำสาบนี้ได
Baneful Hearts สามารถหาได้จากการเปิด Tortured Gifts ทั่ว Helltide และการเอาชนะ Hellborn นักรบสุดแข็งแกร่ง ใช้ Baneful Hearts จำนวน 3 อัน เพื่อเริ่มพิธีกรรม ซึ่งจะเริ่มต้นด้วยฝูงศัตรูจากนรก และการซุ่มโจมตีในครั้งนี้จะจบลงด้วยการมาถึงของ Blood Maiden ปีศาจผู้น่าเกรงขามที่มีพลังมหาศาล และเธอจะมอบรางวัลอันยิ่งใหญ่ให้กับคุณหลังจากการตายของมัน
Helltides ใน World Tier I และ II
เพื่อให้ผู้เล่นได้เตรียมพร้อมสำหรับภัยคุกคามใน Helltide ในช่วงแรกๆ เราได้เตรียม Helltide ใหม่นี้ใน World Tier 1 และ 2 แล้ว โดยที่จำนวนของศัตรูจะเหมาะสมกับ World Tier นั้นๆ และจะไม่มี Boss ใน Helltide โผล่ไปแน่นอน
ความชั่วร้ายที่ได้รับการเปลี่ยนแปลง
สำหรับผู้เล่นที่ต้องการก้าวข้ามขีดจำกัดของ Helltide เราได้เตรียมน้ำยาพิเศษเอาไว้มันถูกเรียกว่า “Profane Mindcage” การใช้งานน้ำยาพิเศษ Profane Mindcage นี้จะทำให้ระดับของมอนสเตอร์ใน Helltide เพิ่มขึ้น 10 ระดับแต่จะเพิ่มอัตราการดรอปของ Cinder ด้วย และมันจะดรอปแน่นอน 100% เมื่อสังหาร Hellborne ได้ และ น้ำยาพิเศษ Profane Mindcage จะอยู่ไปจนกว่าจะหมด Season 4: Loot Reborn
ปีศาจตัวใหม่ได้ถูกเพิ่มเข้ามาใน Helltide แล้ว รวมถึงการเผชิญหน้ากับเผ่า Iron Wolves ในตำนาน และจากการเปลี่ยนแปลงล่าสุด หลังจากผ่านช่วงทดสอบ PTR (Public Test Realm) Doomsayers จะไม่ดรอป Chests of Doomsaying อีกต่อไป แต่จะ ดรอปไอเท็มที่มีมูลค่าเทียบเท่ากับของที่อยู่ในหีบนั้นแทน ทำให้ผู้เล่นไม่ต้องเสีย Cinder ในการเปิดหีบอีกต่อไป
ความท้าทายใหม่: The Pit of Artificers
มีการกล่าวขานของข่าวลือมาว่ามีแร่แปลกๆ หลากหลายชนิดอยู่ลึกเข้าไปในดันเจี้ยนที่สลับซับซ้อนทางตอนเหนือของ Sanctuary แร่เหล่านี้เหมาะสำหรับจะนำมาสร้างเป็นชุดเกราะที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษ โดยใช้เทคนิคลับของ Horadric แต่อย่างไรก็ตาม ความน่าสะพรึงกลัวที่รอคอยผู้พเนจรผู้กล้าหาญที่ต้องการขุดค้นความมั่งคั่งเหล่านี้นั้นช่างน่ากลัวจนเกินจะบรรยายได้
เมื่อเข้าสู่ World Tier IV คุณจะได้รับภารกิจสำคัญในการผ่านดันเจี้ยน Nightmare ระดับ 46 เมื่อเสร็จสิ้น คุณจะเริ่มสะสม Runeshards โดยการเล่นผ่านกิจกรรม Endgame ต่างๆ พวกมันจะปรากฏขึ้นเมื่อคุณเผชิญหน้ากับ
- Helltide Chests
- World Bosses
- Legion Events
- Nightmare Dungeons
- Whisper Bounties
รวบรวม Runeshard และเปิดใช้งาน Obelisk ใน Cerrigar เพื่อให้คุณสามารถดำดิ่งลงสู่ส่วนลึกของ The Pit หน้าที่ของคุณ คือ สังหารมอนสเตอร์ให้ได้มากพอ ก่อนที่เวลา 10 นาทีจะหมดลง และเมื่อสังหารครบแล้วบอสตัวสุดท้ายจะถูกอัญเชิญออกมา การตายของผู้เล่นแต่ละครั้งจะลดเวลาลง:
- ตายครั้ง 1 จะถูกลดเวลาลง 30 วินาที,
- ตายครั้งที่ 3 จะถูกลดเวลาลง 60 วินาที,
- ตายตั้งแต่ครั้งที่ 3 และครั้งต่อๆ ไปจะถูกลดเวลาลง 90 วินาที
หลังจากสังหารศัตรูได้มากพอแล้ว Portal จะปรากฎออกมาและนำผู้เล่นไปยังลานต่อสู้ของ Boss การสังหาร Boss ได้ก่อนที่เวลาจะหมดลง ผู้เล่นจะได้รับวัตถุดิบสำหรับการทำ Masterworking และสามารถปลดล็อค The Pit ในชั้นถัดไปได้ และถ้าหากคุณสามารถสังหาร Boss ได้โดยที่ยังเหลือเวลาก็จะได้รับรางวัลเพิ่มขึ้น โดยที่เหลือเวลาอย่างน้อย 4-6 นาที จะทำให้ผู้เล่นสามารถข้ามเลเวลและปลดล็อคชั้นพิเศษของ The Pit การสังหารบอสโดยเหลือเวลามากกว่า 6 นาที จะทำให้ผู้เล่นปลดล็อคชั้นเพิ่มเติมได้อีก 2 ชั้น THE PIT OF ARTIFICERS จะมีทั้งหมด 200 เลเวล ลองพิชิตมันให้ได้ หากคุณกล้าพอที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทาย
The Pit สามารถเข้าไปเป็นกลุ่มได้ 4 ผู้เล่น โดยผู้เล่นที่ใช้ Runeshards เพื่อเปิด Pit จะได้รับส่วนแบ่งวัสดุจำนวนมากและเฉพาะผู้เล่นที่เปิด The Pit เท่านั้น จึงจะมีโอกาสได้รับ Stygian Stones หินที่ใช้เรียก Tormented Echoes ระดับ 200 ของบอสที่สามารถอัญเชิญได้ใน Diablo IV ยิ่งผู้เล่นลงไปถึงระดับของ The Pit มากเท่าไร Stygian Stones เหล่านี้ก็จะปรากฏให้เห็นบ่อยขึ้นเท่านั้น
Andariel เข้าร่วมใน Fray & Tormented Echoes
Maiden of Anguish ได้กลับมาอีกครั้งพร้อมกับแผ่อำนาจแห่งความเจ็บปวด Andariel ได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในบอสระดับเดียวกับ Duriel โดยมีอัตราการดรอปไอเท็มพิเศษระดับสุดยอด (Uber Unique) เท่ากัน ด้วยการผสมผสานระหว่าง Shadow, Fire, Lightning และการโจมตีด้วยพิษ อันเป็นเอกลักษณ์ของเธอ Andariel พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับทุกคนแล้ว
ผู้เล่นจะพบ Andariel ได้ทางตะวันออกของ Tasarak ใน Hanged Man’s Hall โดยที่เราจะต้องใช้วัสดุอัญเชิญจากทั้ง Lord Zir และ Beast in Ice เพื่อเรียก Andariel ให้ออกมาต่อสู้กับเรา
Tormented Echoes: เสียงสะท้อนแห่งความทรมาน
Boss ที่สามารถเรียกได้ทั้งหมด ตอนนี้มีให้เลือกในเลเวล 200 ใน Tormented Echoes สามารถเรียกได้โดยใช้วัสดุการเรียกตามปกติควบคู่ไปกับการใช้หิน Stygian Stones (หาได้จาก The Pit) Boss เหล่านี้จะใช้จำนวนวัตถุดิบในการเรียกมากกว่าปกติ แต่ก็จะให้ของรางวัลที่มากกว่าด้วย
ต่อสู้ร่วมกับ Iron Wolves
ออกตามหา โซเดห์ เดอะ แอนวิล (Soudeh the Anvil) จอมทัพสนามรบผู้แข็งแกร่ง ผู้บัญชาการภาคสนาม ผู้ยึดมั่นในอุดมการณ์ของเหล่า “หมาป่าเหล็ก” (Iron Wolves) หมาป่าเหล็ก คือ กลุ่มทหารรับจ้างผู้สูงศักดิ์ทางตอนใต้ พวกเขาต้องการปกป้องผู้คนธรรมดาทั่วไปใน Sanctuary พวกเขายึดมั่นในกฎเกณฑ์และเกียรติยศที่สูงกว่ากลุ่มของทหารรับจ้างอื่นๆ ทั่วไป ที่มีอุดมการณ์คล้ายคลึงกัน แต่เป็นที่น่าสงสัยว่าสมาชิกของพวกเขากำลังเสียชีวิตลงภายใต้สถานการณ์ที่น่าสงสัย ออกตามหาที่มาของการเสียชีวิตในครั้งนี้ เพื่อรับความไว้วางใจจากเหล่าหมาป่าเหล็ก (Iron Wolves)
คุณสามารถพบเจอกับ Soudeh ได้ในเมือง Khejistan เพื่อเริ่มต้นการเดินทางของคุณเพื่อเปิดเผยแผนการที่อันตรายนี้ การทำงานร่วมกับ Iron Wolves จะทำให้คุณได้รับ Tempering Manual หลายเล่ม ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพของไอเท็มของคุณใน Season 4: Loot Reborn
เหตุการณ์ใดๆ ก็ตามของ Iron Wolf ที่เกิดขึ้นใน Helltide จะยังคงดำเนินต่อไปหลังจากสิ้นสุด Season 4: Loot Reborn
รางวัล Season Journey และ Battle Pass
ในขณะที่คุณต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเหล่า Iron Wolves เพื่อกำจัดเหล่าปีศาจ คุณจะได้รับรางวัลจาก Season Journey และ Battle Pass
Season Journey จะแบ่งออกเป็น Chapters พร้อมภารกิจที่ต้องทำให้สำเร็จ และเมื่อผ่านภารกิจเหล่านั้นแล้ว เราจะได้รับรางวัลที่เหมาะสมสำหรับการเป็นผู้ปกป้อง Sanctuary ไว้ เช่น Legendary Aspects และไอเท็ม Reset Skill Tree และ Paragon Board จำนวน 3 อัน
The Season 4: Loot Reborn Battle Pass เริ่มต้นในวันที่ 14 พฤษภาคม 10:00 น. เวลาแปซิฟิก (ตรงกับเวลาในประเทศไทย คือ 00.00 หรือ เที่ยงคืน วันที่ 15 พฤษภาคม 2024) โดยมีรางวัล 90 ระดับ (ระดับฟรี 28 ระดับ และระดับพรีเมี่ยม 62 ระดับ)
หากคุณซื้อ Premium Battle Pass ไม่เพียงแต่จะได้รางวัลจากระดับฟรีทั้งหมดแล้ว แต่จะได้รับชุดเกราะ Awoken Demigod, Platinum และอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงชุดเกราะ Awoken Demigod Plating Mount Armor, Purified Demigod Thoroughbred Mount และ ถ้วยรางวัล Divine Banner Mount ซึ่งจะปลดล็อคที่ระดับ 90
นอกจากนี้คุณยังสามารถซื้อ Accelerated Seasonal Battle Pass จะช่วยให้ผู้เล่นสามารถข้ามระดับไปอีก 20 ระดับ โดยที่ไม่ต้องเล่นและจะได้รับของรางวัลได้เร็วขึ้นจากระดับที่้ข้ามมาแล้ว รวมถึงยังได้รับ Emote Wings of Hell’s Legion ด้วย
Smoldering Ashes ที่ได้รับจาก Free Tiers สามารถนำไปใช้สำหรับ Season Blessings ซึ่งจะมอบโบนัสที่เป็นประโยชน์ในการเอาชนะกองทัพจากนรก โดยมี Blessings ใหม่ 3 ประการสำหรับ Season 4: Loot Reborn
- Urn of Nightmares: เพิ่ม XP Paragon Glyph ที่ได้รับใน Nightmare Dungeons
- Urn of Iron: เพิ่มชื่อเสียงของคุณด้วยกิจกรรม Iron Wolves จาก Helltide
- Urn of Burning Obols: เพิ่มจำนวน Obols ที่คุณสามารถพบได้ในหีบ Helltide ซึ่งมี Obols ในช่วงฤดูกาลนี้
โบนัสเพิ่มเติมที่ได้รับเหล่านี้จะคงอยู่จนกว่าจะจบ Season 4
ชุดใหม่ในร้านค้าของ Tejal
เตรียมพบกับไอเท็มเด็ดมากมายในร้านค้า! ตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม เป็นต้นไป Tejal มีไอเท็มใหม่ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์ ชุดเกราะ เครื่องประดับ สัตว์ขี่ และเกราะสัตว์ขี่ใหม่ๆ มาวางจำหน่าย อย่าลืมแวะไปเยี่ยม Tejal บ่อยๆ เพราะเธอจะมีการอัพเดทสินค้าตลอดทั้ง Season 4 และชุดที่หาได้ยากจากในดินแดนอันห่างไกล Sanctuary คือชุด Demon’s Heart Bundle สำหรับคน Barbarian ซึ่งประกอบไปด้วยชุดเกราะ Demonheart และเครื่องสำอางอาวุธ Demonheart 2 ชิ้น
กำหนดเปิดตัว Season 4: Loot Reborn
วันที่ 14 พฤษภาคม 2024
สำหรับแพลตฟอร์ม:
PlayStation 5, PlayStation 4, Xbox Series X|S, Xbox One, PC (ผ่าน Blizzard Store, Steam)
ที่มา: Blizzard / Diablo 4