Blizzard Entertainment ได้เปิดตัวงาน BlizzCon 2023 ไปแล้วอย่างเป็นทางการ โดยงาน BlizzCon 2023 นี้เป็นงานสำหรับอัปเดตเกมใหม่ๆ รวมถึงข้อมูลใหม่ๆ ที่จะมีขึ้นในอนาคต หรือ เรียกได้ว่าเป็นการประกาศ Roadmap ของเกมแต่ละเกม ของค่ายเกมนี้เป็นประจำทุกปี และสำหรับปี 2023 นี้ก็มีการอัปเดตที่น่าสนใจมากมาย รวมถึงเกม Diablo 4 ที่ได้รับการอัปเดตเพิ่มเติมขึ้นด้วยเนื้อหาใหม่ๆ ในระหว่าง Season of Blood หรือ Season 2 ที่กำลังดำเนินอยู่ในปัจจุบันนี้ด้วยเช่นกัน
อัปเดตใหม่ที่ตจะมีขึ้นใน Season of Blood ไปจนถึงช่วงคริสต์มาส
ก่อนที่เราจะไปพูดถึงเนื้อหาใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นสำหรับ Expansion หรือ ส่วนเสริมใหม่ของเกม Diablo 4 นี้ มาดูกันก่อนคร่าวๆ สำหรับการอัปเดตเนื้อหาที่จะมีขึ้นใน Season of Blood นี้ก่อนดีกว่า ซึ่งในงานได้อัปเดตไว้ดังนี้
เวอร์ชันใหม่ 1.2.2: ที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2023 โดยจะมีการเพิ่มเครื่องประดับใหม่เข้ามา เป็นแหวนใหม่สำหรับ 5 Class แบ่งเป็นแหวนละ 1 Class ซึ่งจะเป็นแหวนแบบ Unique Items จาก Season of The Malignant ซึ่งอาจจะช่วยให้ผู้เล่นสามารถเข้าถึงพลังจาก Season 1 ได้
เวอร์ชันใหม่ 1.2.3: จะเพิ่มเข้ามาในวันที่ 5 ธันวาคม 2023 โดยจะมีการเพิ่มเรื่องสำคัญเข้ามา 2 เรื่อง คือ
- การแสดงหน้าต่างของการ Enchanting: ให้ผู้เล่นได้เห็นว่าพวกเขากำลังอัปเกรดอะไรอยู่ และจะได้ว่าค่า Stat ต่ำสุด – สูงสุด เป็นเท่าไหร่ได้บ้าง (ซึ่งตรงนี้ถือว่าค่อนข้างดีมาก)
- เพิ่ม Paragon Glyph: ใหม่เข้ามาที่มีชื่อว่า “Abattoir of Zir” โดยจะเพิ่มเข้ามาในช่วง 6 สัปดาห์สุดท้ายก่อน Season of Blood จะจบลง (ปกติแต่ละ Season จะมีระยะเวลา 3 เดือน) จำนวน 6 สัปดาห์ ก็ประมาณได้ 1 เดือนครึ่ง ที่เราจะได้เล่นและออกตามล่าหา Glyph พิเศษนี้
- ในวันที่ 12 ธันวาคม 2023: จะได้รับการอัปเดตพิเศษเข้ามาสำหรับช่วงปีใหม่ หรือในช่วงคริสต์มาส โดยจะมีชื่อเรียกกิจกรรมนี้ว่า “Midwinter Blight” โดยจะมีภารกิจใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาใน Sanctuary และกิจกรรมที่เรียกว่า “The Gauntlet” ที่จะมีลักษณะเป็นเหมือนกระดาน Leaderboard ที่เอาไว้แข่งขันกันระหว่างผู้เล่น และผู้เล่นที่อยู่ในอันดับต้นๆ (ตอนนี้ยังไม่ระบุว่าจะมีกี่อันดับ) จะถูกบันทึกชื่อรวมถึง Build ของผู้เล่นเหล่านั้นไว้ในสถานที่ที่เรียกว่า “Seasonal Hall of Ancients” ตลอดกาล
อัปเดตส่วนเสริม หรือ Expansion ใหม่ตัวแรกของเกม Diablo 4: Vessel of Hatred
ส่วนเสริมตัวแรกของเกมนี้ที่ได้มีการประกาศไว้ว่าจะมาถึงในช่วงปลายปี 2024 โดยจะใช้ชื่อว่า “Vessel of Hatred” หรือ ภาชนะแห่งความเกลียดชัง ซึ่งจะหมายถึง Prime Evil ที่ชื่อว่า Mephisto ที่ได้แยกทางออกไปตอนท้ายของเกมเนื้อเรื่องหลัก และข้อมูลแบบเต็มๆ จะได้รับการประกาศอีกครั้งในช่วง ฤดูร้อน 2024
ดินแดนใหม่ที่ผู้เล่นจะได้ไปสัมผัสในส่วนเสริมนี้จะมีชื่อว่า “Nahantu” ที่ถูกกล่าวขานว่าเป็นดินแดนแห่งความแต่งต่าง ตั้งแต่ดินแดนที่เขียวขจีอย่าง Restless Canopy ไปจนถึงดินแดนที่ราบสูงสุดแห้งแล้งที่มีชื่อว่า “Teganze” ที่ตั้งของ Field of Giants ซึ่งเป็นสถานที่แห่งความเกลียดช่าง รวมถึง Kurast สถานที่ของท่อน้ำทิ้งอันมืดมิดที่จะได้เดินทางกลับไปที่นั้นอีกครั้ง นอกจากนี้ในดินแดนแห่ง “Nahantu” จะมาพร้อมกับเนื้อหาใหม่ๆ ทั้งภารกิจใหม่ ดันเจี้ยนใหม่ที่จะพาผู้เล่นเข้าไปสัมผัสอาณาจักรแห่งวิญญาณอันบริสุทธิ์ที่มีความเกี่ยวโยงกับ Class ใหม่อย่าง “Spiritborn”
Class ใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในจักรวาลของ Diablo (ฺBlizzard บอกไว้แบบนั้น)
ส่วนสำคัญส่วนสุดท้ายที่ได้รับการเปิดเผยมานั้น ทาง Blizzard ได้ประกาศว่าจะเพิ่ม Class ใหม่เข้ามาที่มีชื่อว่า “Spiritborn” ที่จะมีความเชื่อมโยงกับธรรมชาติ เท่าที่มีข้อมูลหลุดหรือข่าวลือ ออกมากก่อนหน้านี้ Class นี้จะมีความสมดุลมากทั้งการโจมตีและการป้องกัน รวมถึงอาจจะมีสกิลที่สามารถใช้บินได้ด้วย
กำหนดวางจำหน่ายเกม:
กำหนดเปิดตัว Diablo 4: Vessel of Hatred ปลายปี 2024
สำหรับแพลตฟอร์ม:
PlayStation 5, PlayStation 4, Xbox Series X|S, Xbox One, PC (ผ่าน Blizzard Store, Steam)
