เมื่อหลายปีก่อน Microsoft มีวิสัยทัศน์สร้างศูนย์รวมในการให้บริการเกม ผ่านระบบการให้บริการเกม แบบสมัครสมาชิก ที่เรียกว่า Game Pass เพื่อให้นักเล่นเกมจ่ายเงินแบบเหมาจ่าย และเข้าไปเล่นเกมอะไรก็ได้ที่มีอยู่ทั้งหมดในศูนย์รวมนี้ ในตอนนั้น Michael Pachter นักวิเคราะห์จาก Wedbush Securities เชื่อว่านี่เป็นสิ่งที่ Microsoft คิดได้ไม่ฉลาดเอาซะเลยและไม่น่าจะประสบความสำเร็จด้วยซ้ำ
ในขณะที่ Microsoft กำลังเปิดให้บริการ Game Pass นั้น ยังมีเกมที่เปิดให้บริการอยู่ในระบบเพียงหยิบมือเท่านั้น แต่วิสัยทัศน์ของ Microsoft ไม่ได้ตั้งเป้าเอาไว้สำหรับคำว่าล้มเหลว จุดนี้เองที่ทำให้ Microsoft จึงได้เริ่มเดินหน้าซื้อกิจการบริษัทผู้พัฒนาเกมอิสระเพิ่มมาอีก 6 แห่ง อย่างเช่น สตูดิโอของ Obsidian ที่เพิ่งจะเปิดตัวเกม Grounded ไปไม่นานนี้ สตูดิโอ Bethesda สตูดิโอเกมขนาดใหญ่ซึ่งมีเกมที่กำลังจะเปิดตัวอย่าง Starfield และในตอนนี้ก็กำลังดำเนินการซื้อ Activision Blizzard เช่นเดียวกัน ถ้าหากดีล การซื้อ Blizzard เป็นไปได้ด้วยดี และจบลงแล้ว จะทำให้ Microsoft กลายเป็นบริษัทผู้เผยแพร่เกม ที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ในสหรัฐอเมริกา
วิสัยทัศน์ในอนาคตของ Microsoft ไม่หยุดอยู่เพียงแค่นี้ สิ่งที่พวกเขามองไว้ในอนาคตคือ การลดปริมาณเครื่องเกมคอนโซลลง และให้ผู้เล่นหันมาเล่นเกมบนระบบคลาวด์มากขึ้นแทน ผ่านหน้าจอสมาร์ททีวีต่างๆ ที่รองรับ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จำนวนสมาชิกผู้ใช้งานในปัจจุบันจะเพิ่มขึ้นจาก 25 ล้านบัญชี เป็น 100 ล้านบัญชี
ดีลควบรวมกิจการกับ Activision Blizzard หากไม่มีการฟ้องร้องใดๆ เกิดขึ้นจากหน่วยงานกำกับดูแลของทางภาครัฐอย่าง FTC และ CMA ในเดือนตุลาคม Microsoft อาจจะประกาศปิดดีลอย่างเป็นทางการในช่วงสิ้นปี 2022 นี้
ที่มา: wccftech