สารบัญ

1 คะแนน: 8.5 / 10
- 1.1 ข้อมูลเพิ่มเติม

ต้องบอกตามตรงเลยว่า ก่อนที่จะได้มาเล่นเกม Darkest Dungeon ผู้เขียนก็พอจะเคยเห็นเกมนี้ผ่านตามาบ้างและก็คิดว่าเกมนี้มีรูปแบบการเล่นที่น่าสนใจและแปลกดี จนกระทั่งได้ลองเข้าไปดูใน Steam ดูข้อมูลอยู่สักพักหนึ่ง ก็เห็นว่าเกมได้รับรางวัลมาค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว จึงตัดสินใจซื้อมาเล่นด้วยความอยากลองเล่นสักครั้งโดยไม่ลังเล

หลังจากนั้นก็ได้เปิดเกมขึ้นมาเล่น ตอนแรกก็งงๆ กับหน้าตา Interface ของเกมอยู่หน่อยนึง จึงใช้เวลาทำความเข้าใจตัวเกมอยู่สักพัก (ประมาณ 30 นาที) เลยคิดว่าถ้าเล่นเกมแล้วก็น่าจะนำประสบการณ์การเล่น มาเขียนแบ่งปันกันน่าจะมีประโยชน์กับผู้ที่ได้เข้ามาอ่าน หรืออาจจะพอช่วยเป็นแนวทางในการตัดสินใจ สำหรับผู้ที่กำลังจะซื้อเกมนี้มาเล่นกัน

ข้อมูลประสบการณ์ในการเล่นที่นำมาเขียน รีวิวเกม Darkest Dungeon มาจากความคิดเห็นของผู้เขียนเป็นส่วนใหญ่ ที่ได้ลองเล่นแล้วมาเล่าให้ฟัง ด้วยความที่เกมมีวางจำหน่ายมานานนนนนนมากแล้ว!! โดยเกมได้เปิดตัวครั้งแรกในปี 2016 จึงอาจจะมีทั้งผู้ที่เคยเล่นมาแล้วและผู้ที่ยังไม่เคยเล่นเข้ามาอ่านข้อมูลของผู้เขียนในบทความนี้ หากผู้อ่านท่านใดรู้สึกว่าได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์แล้วอยากช่วยเราแบ่งปันข้อมูลนี้

สามารถกดแชร์ข้อมูลและติดตามวิดีโอใหม่ๆ ของเราได้ที่
เพจ Facebook และช่อง Youtube ของเราได้เลย

เนื้อเรื่อง

เกมจะเล่าถึงบรรพบุรุษของเราที่มีมรดกตกทอดมาเป็นที่ดินในเมืองแห่งหนึ่งพร้อมกับคฤหาสน์หลังใหญ่อันสวยงาม จนกระทั่งบรรพบุรุษของเราได้ไปค้นพบกับบันทึกอะไรบางอย่างที่ดูเหมือนจะเป็นแผนที่เก่าแก่ของคฤหาสน์แห่งนี้ ในบันทึกได้พูดถึงความลึกลับดำมืดที่ตั้งอยู่ใต้คฤหาสน์หลังนี้

ด้วยความที่ต้องการสำรวจสิ่งลึกลับที่อยู่เบื้องล่างของคฤหาสน์ บรรพรุษของเราจึงได้จ้างแรงงานเพื่อมาช่วยทำให้ความปราถนาของเขาเป็นจริงตามที่บันทึกได้เขียนไว้ คนงานได้ขุดลึกลงไปถึงตำแหน่งที่ตั้งตามที่บันทึกได้บอกกล่าวเอาไว้ จนกระทั่งได้พบกับประตูโบราณขนาดมหึมา ที่มีลักษณะไม่ค่อยเป็นมิตรและดูเหมือนว่าต้องการปิดผนึกอะไรบ้างอย่างไว้อีกฝากหนึ่งตลอดกาลเพื่อไม่ให้มีอะไรเล็ดลอดออกมาจากประตูนั้นได้

ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ผสมเข้ากับความโลภอย่างหาที่สุดไม่ได้ ทำให้บรรพบุรุษของเราได้เปิดประตูบานนี้และได้เชื่อเชิญความชั่วร้ายรวมถึงสัตว์ร้ายทั้งหลาย ข้ามประตูมายังอีกฝากมิติของโลกเราอย่างไม่ทันได้คาดคิดมาก่อน ทุกอย่างไม่มีอะไรกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว

หลังจากที่ได้เห็นความชั่วร้ายที่อยู่ข้างหลังประตูบานนั้นก้าวผ่านเข้ามาสู่ดินแดนที่เคยสงบสุขมาอย่างยาวนานผ่านคฤหาสน์หลังนี้ และมันก็เกินความสามารถที่จะปิดผนึกพวกมันกลับเข้าไปหลังประตูบานนั้นอีกครั้ง บรรพบุรุษจึงได้ตัดสินใจเขียนจดหมายฉบับสุดท้าย ก่อนที่จะปลิดชีพตัวเองเพื่อชดใช้ความผิดที่ได้ก่อไว้ ในจดหมายได้เขียนเล่าถึงความผิดพลาดที่เขาได้ก่อไว้และส่งต่อให้ลูกหลานมาช่วยชำระล้างเรื่องที่เขาไม่ได้ตั้งใจทำให้มันเลวร้ายได้ถึงเพียงนี้

ต่อมาเราจะเดินทางมาถึงเมือง Hamlet เมืองที่คฤหาสน์แห่งนี้ตั้งอยู่ และเราจะได้รับภารกิจต่อจากบรรพบุรุษของเรา ในการชำระล้างสถานที่ชั่วร้ายและกำจัดเหล่าสัตว์ร้ายให้หมดไปจากสถานที่แห่งนี้

เข้าสู่การเล่น

หลังจากที่เราได้รับรู้เรื่องราวของบรรพบุรุษที่เกมได้เล่าให้เราฟังคร่าวๆ แล้ว เราก็จะพอเริ่มเข้าใจแล้วว่าเรามาทำอะไรที่นี่ และเราจะต้องทำอะไรต่อไปในสถานที่แห่งนี้ ซึ่งจริงๆ แล้วเราที่เป็นผู้เล่นไม่ได้ทำหน้าที่ลุยเข้าไปในดันเจี้ยนเอง แต่ผู้เล่นจะรับหน้าที่เป็นผู้จ้างวานเหล่านักเดินทางที่เดินทางมากับรถม้าที่เดินทางมาถึงเมือง Hamlet แห่งนี้

สิ่งแรกที่ผู้เล่นจะพบเลยคือหน้าจอการเล่นหลัก ที่แสดงให้เห็นว่ามีร้านค้าและสถานที่อะไรบ้างที่ผู้เล่นต้องเข้าไปใช้งานเป็นอยู่ประจำ ตอนเริ่มเกมก็รู้สึกว่ามันคงต้องมีสักแห่งที่ไม่ค่อยได้ใช้ แต่พอได้เล่นไปสักพักนึงจะเริ่มรู้เลยว่าทุกสถานที่มันจำเป็นทั้งหมดเลย

ความรู้สึกแรกที่ได้เล่นเกม Darkest Dungeon คือ การออกแบบภาพกราฟิกของเกมที่ออกแบบได้ดีเลยทีเดียว ไม่แน่ใจว่าเรียกว่าสไตล์อะไร แต่ลักษณะของภาพไม่ไ่ด้ให้ความรู้สึกว่านี่เป็นเกมเมื่อ 6 ปีที่แล้วเลย (ปัจจุบันคือปี 2022) ภาพในเกมยังคงให้ความรู้สึกเหมือนเป็นเกมในสมัยปัจจุบัน ซึ่งดูไม่ได้เก่าไปเลยแม้แต่น้อย ผสมผสานกับดนตรีประกอบของเกมที่ทำให้รู้สึกว่าเกมมีความมืดมนอยู่พอสมควร

รูปแบบการเล่นที่เป็นเอกลักษณ์

ผู้เล่นจะได้รับหน้าที่ต่อจากคำขอสุดท้ายของบรรพบุรุษเพื่อชำระล้างสถานที่ชั่วร้ายแห่งนี้ โดยที่ผู้เล่นจะต้องรวบรวมเหล่านักเดินทางที่มากับ Stage Coach หรือ รถม้าโดยสารที่มายังดินแดนแห่งนี้และต้องออกทุนทรัพย์ จัดเตรียมเสบียงต่างๆ ที่จำเป็นเพื่อให้ทีมของเราลงไปสำรวจในดันเจี้ยนและกลับออกมาครบทุกคน

แต่ประเด็น คือ มันไม่ได้ง่ายเหมือนที่คิดเอาไว้ในตอนแรก เกมจะมีระบบที่บอกเราว่าทีมสำรวจที่เรารวมทีมนั้น เข้ากันได้ดีขนาดไหน หรือเข้ากันไม่ได้เลย ถ้าหากความสามารถของแต่ละตัวละครเข้ากันได้หรือไม่เข้ากันเลยเกมจะบอกเราเป็นนัยๆไว้ เช่น ในรูปของทีมนี้จะบอกเราว่าเป็นทีมแบบ Status Mayhem หรือ มีสถานะที่ทำร้ายกันได้ บางทีมันไม่ใช่ว่าขึ้นแล้วดีเสมอไป ต้องคอยสังเกตุและดูอยู่เสมอแปลกันให้ดีๆ

การออกสำรวจในแต่ละดันเจี้ยนทำได้ค่อนข้างแตกต่างกันดี รวมถึงสัตว์ประหลาดที่เราจะได้พบเจอและต่อสู้ในแต่ละสถานที่ก็จะแตกต่างกันออกไปด้วย เลือกทุกอย่างให้ดีที่สุดก่อนจะส่งทีมสำรวจของเราไป(สู้)ตายเปล่า

เตรียมเสบียงก่อนลงดันเจี้ยน

เสบียงเป็นเรื่องสำคัญที่สุดอีกอย่างหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้เลย ทุกไอเท็มมีให้ใช้อย่างจำกัด ผู้เล่นจะสามารถซื้อได้ตามที่ร้านค้ามีขายให้เราเท่านั้น รวมถึงเราต้องคิดให้ดีๆ แบบดีจริงๆ ว่าจะต้องใช้ไอเท็มอะไรเยอะเป็นพิเศษ หรือไม่ต้องใช้เลย

เพราะบางครั้งเราไม่ได้จำเป็นต้องใช้ไอเท็มเหล่านั้นหมดทุกอย่าง และต้องดูด้วยว่าดันเจี้ยนที่เรากำลังจะลงไปสำรวจนั้น เป็นดันเจี้ยนที่มีระยะทางในการสำรวจยาวขนาดไหน ซึ่งจะมีอยู่ 3 แบบ คือ แบบสั้น แบบกลาง แบบยาว และถ้าดันเจี้ยนเป็นความยาวตั้งแต่แบบกลางขึ้นไป ตัวเกมจะให้ไอเท็มแคมป์ไฟมาให้ด้วยอย่างน้อย 1 ชิ้น เพื่อให้ผู้เล่นได้หยุดพักหายใจระหว่างทาง ซึ่งตัวละครของเราแต่ละตัวจะมีสกิลพิเศษที่แตกต่างกันออกไปตามสายอาชีพ และจะใช้สกิลได้เฉพาะตอนที่ตั้งแคมป์ไฟเท่านั้น อย่างเช่น สกิลช่วยลดความเครียด สกิลรักษาแบบกลุ่ม สกิลเพิ่มบัฟโจมตี ก่อนที่จะออกเดินทางต่อในดันเจี้ยนส่วนที่ยังเหลือตามภารกิจ

เครียดทั้งในเกมและนอกเกม

ตัวเกมมีระบบที่น่าสนใจอยู่หลายอย่างโดยเฉพาะระบบที่เรียกว่าเป็นจุดเด่นของเกม Darkest Dungeon คือ ระบบความเครียด ซึ่งถ้ามองกันตามความเป็นจริงอาจจะเป็นประมาณว่าจะเครียดแค่ไหนถ้าเราต้องลงไปสำรวจในพื้นที่แปลกๆ ร่วมกับคนที่ไม่รู้จักและไม่รู้นิสัยกันเลย หรือจะมีอะไรโผล่มาและเราจะตายไหม

ระบบความเครียดนี้เป็นระบบที่น่าสนใจและบีบคั้นหัวใจผู้เล่นได้ดีจริงๆ มันทำให้เราต้องปวดประสาทกันไม่น้อย อย่างเช่น อาชีพนักบวช ถ้าได้รับความเครียดสะสมมากๆ จนเกินรับไหวแล้วจะส่งผลให้เป็นโรคหัวใจ เลือดที่เต็มหลอดอยู่ดีๆ ก็กลายเป็นศูนย์ได้ในทันใด แล้วถ้ายิ่งเป็นตอนที่กำลังเสียเปรียบอยู่นี่พูดอะไรไม่ออก บอกได้เลยว่าจบแล้วโอกาสตายทั้งทีมก็ไม่ไกลอย่างที่คิด

ความตายในเกมนี้คือตายแล้วตายเลยยยไม่มีเกิดใหม่มีแต่เล่นใหม่อย่างเดียว ตามแบบฉบับของเกมแนว RogueLike โดยไอเท็มทั้งหมดของตัวละครที่ตาย จะหายไปหมดรวมถึงไอเท็มสวมใส่ก็จะหายไปด้วย โอ้ววววม่ายย….อยากออกไปให้พ้นจากดันเจี้ยนเดี๋ยวนี้เลย และถ้าทีมสำรวจของเราตายหมด หรือผู้เล่นทำการยกเลิกภารกิจสำรวจก่อนจะจบภารกิจ ผู้เล่นจะไม่ได้เงินที่ซื้อเสบียงคืนด้วยอีกต่างหาก

เลือกพัฒนาตัวละครของเราให้ดี

หลังจากที่เราได้ทำภารกิจสำเร็จแล้ว และได้รับรางวัลเป็นการตอบแทนซึ่งจะมีทั้งไอเท็ม เงินรางวัล และตราสัญลักษณ์ที่ใช้ในการเพิ่มเลเวลของร้านต่างๆ ภายในเมือง โดยร้านค้าภายในเมืองจะมีไว้สำหรับให้คณะสำรวจของเราได้ปลดปล่อยความทุกข์และเครียดกหลังจากเสร็จสิ้นการทำภารกิจกลับมา

เราต้องคอยดูแลพวกเขาให้ดีๆ เพื่อประคองให้ตัวละครเหล่านี้มีชีวิตรอดและไม่เสี่ยงตายกับความเครียดสะสม ก่อนที่จะใช้งานพวกเขาเพื่อลงไปสำรวจในดันเจี้ยนอีกครั้ง ทำให้ผู้เล่นจำเป็นต้องจ้างนักเดินทางกลุ่มใหม่เข้ามาทดแทนนักเดินทางชุดเดิม เพื่อทำการสำรวจดันเจี้ยนครั้งใหม่ในรอบถัดไป

เมื่อเราเล่นเกมไปได้สักระยะนึงจะพบว่า เราจะวนเวียนอยู่กับภารกิจไม่กี่อย่างที่เราสามารถสำรวจและต่อสู้ได้ นั้นก็เพราะความสามารถของเหล่านักเดินทางยังไม่ได้รับการพัฒนาให้เก่งพอที่จะเดินไปได้ไกลกว่าเดิม ทำให้เรายังคงทำภารกิจได้แบบสั้น และแบบกลาง ภารกิจที่ต้องเดินยาวๆ ไม่น่าจะเอาชีวิตรอดกลับมาได้ทั้งหมดน่าจะตายกันยกทีม เสียทั้งไอเท็ม เสียทั้งเสบียง แถมไม่ได้รางวัลอะไรกลับมา ดังนั้นเราต้องเลือกให้ดีว่าเราจะพัฒนาตัวละครตัวไหนบ้าง และใส่เครื่องประดับที่เพิ่มความสามารถให้กับนักเดินทาง ทุกอย่างล้วนเป็นความเสี่ยงทั้งสิ้น

บทสรุป

ถ้าหากคุณเป็นผู้เล่นที่ชื่นชอบความท้าทายในการเล่นเกมยากๆ และชอบอะไรที่แปลกใหม่ มีอะไรให้ประหลาดใจทุกครั้งที่ได้เล่น และถ้าคุณยังชื่นชอบแนวเกม RogueLike เป็นพิเศษด้วยแล้ว Darkest Dungeon ถือว่าเป็นเกมที่คุณจะต้องลองหามาเล่นให้ได้สักครั้งนึงมันคุ้มค่าจริงๆ ที่จะได้เล่นเกมนี้ และเกมก็มีภาคที่ 2 ออกมาให้เล่นกันแล้วซึ่งในปัจจุบันเกมได้เปิดเป็นแบบ Early Access ใน Steam แล้ว

แต่ถ้าคุณไม่ค่อยชอบเกมยากๆ ตายแล้วตายอีก ตายจนอาจทำให้คุณหงุดหงิดถึงขั้นไม่อยากเปิดเกมขึ้นมาอีกเลย เกมนี้ไม่น่าจะเหมาะกับคุณเท่าไหร่ ข้ามเกมนี้ไปได้เลย