Intel ได้พัฒนา FakeCatcher ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สามารถตรวจจับวิดีโอปลอมด้วยอัตราความแม่นยำถึง 96% แพลตฟอร์มการตรวจจับ Deepfake ของ Intel เป็นเครื่องตรวจจับ Deepfake แบบเรียลไทม์เครื่องแรกของโลกที่ส่งคืนผลลัพธ์เป็นมิลลิวินาที “ตอนนี้วิดีโอ Deepfake มีอยู่ทุกที่ คุณอาจเคยเห็นมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอของคนดังที่ทำหรือพูดในสิ่งที่พวกเขาไม่เคยทำมาก่อน”
การตรวจจับ Deepfake แบบเรียลไทม์ ของ Intel ใช้ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของ Intel และทำงานบนเซิร์ฟเวอร์และอินเทอร์เฟซผ่านแพลตฟอร์มบนเว็บ เครื่องมือตรวจจับส่วนใหญ่จะใช้การเรียนรู้เชิงลึกเพื่อเรียกดูข้อมูลดิบและพยายามค้นหาสัญญาณของความไม่ถูกต้องรวมถึงระบุสิ่งผิดปกติในวิดีโอ แต่ในทางตรงกันข้ามกับเทคโนโลยี FakeCatcher นั้นมองหาเงื่อนงำที่แท้จริงที่เกิดขึ้นในวิดีโอจริง โดยการประเมินสิ่งที่ทำให้เราเป็นมนุษย์ นั่นคือ “การไหลเวียนของเลือด” ที่ละเอียดอ่อนในระดับพิกเซลของวิดีโอ
เมื่อหัวใจสูบฉีดเลือด เส้นเลือดของเราจะเปลี่ยนสี สัญญาณการไหลเวียนของเลือดเหล่านี้รวบรวมจากทั่วใบหน้าและอัลกอริทึมจะแปลสัญญาณเหล่านี้เป็นแผนที่เชิงพื้นที่ จากนั้น เมื่อใช้การเรียนรู้เชิงลึก เราจะสามารถตรวจจับได้ทันทีว่าวิดีโอนั้นเป็นของจริงหรือของปลอม
วิดีโอ Deepfake กำลังเป็นภัยคุกคามที่เพิ่มมากขึ้น บริษัทต่างๆ จะใช้จ่ายสูงถึง 188,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ นอกจากนี้การตรวจจับวิดีโอ Deepfake แบบเรียลไทม์ยังทำได้ยากในปัจจุบัน โดยทั่วไปแอปตรวจจับจำเป็นต้องอัปโหลดวิดีโอเพื่อการวิเคราะห์ และต้องรออีกหลายชั่วโมงเพื่อดูผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
การหลอกลวงเนื่องจากการปลอมแปลงของ Deepfake อาจก่อให้เกิดอันตรายและส่งผลในด้านลบเป็นวงกว้าง เช่น ความเชื่อมั่นในสื่อลดลง แต่ด้วยเทคโนโลยี FakeCatcher จะช่วยคืนความน่าเชื่อถือได้โดยทำให้ผู้ใช้สามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างเนื้อหาจริงและเนื้อปลอมได้ค่อนข้างแม่นยำ